เว็บไซต์ คืออะไร สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเริ่มทำเว็บไซต์ด้วยตัวเอง

ปัจจุบันบริษัทรับทำเว็บไซต์มีมากมายหลายบริษัท ซึ่งแต่ละบริษัทก็จะมี Solutions ที่น่าสนใจแตกต่างกันไป รวมถึงรายจ่ายก็เช่นกัน หากคุณเป็นคนที่กำลังอยากจะเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาสักเว็บแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากจุดไหน ลองอ่านบทความซีรี่ย์ของเราดู เพราะบทความทั้งหมดของเราจะแนะนำขั้นตอนในการเริ่มสร้างเว็บไซต์ตั้งแต่ต้นจนสำเร็จ ไม่ว่าจะคุณมีความรู้มากน้อยแค่ไหนก็สามารถสร้างเว็บไซต์ได้อย่างแน่นอน ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเว็บไซต์ (Website) กันก่อนว่า เว็บไซต์ คืออะไร เว็บไซต์มีกี่ประเภท แตกต่างกันยังไงและมีประโยชน์ยังไง ทำไมถึงต้องมีเว็บไซต์กัน

1. เว็บไซต์ คืออะไร

เว็บไซต์ (Website) คือ สื่อที่นำเสนอข้อมูลบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งปัจจุบันสามารถรองรับการนำเสนอได้ทุก Platform เช่น Mobile, Tablet, Desktop เป็นต้น สามารถเข้าถึงหน้าเว็บไซต์ได้โดยใช้เบราว์เซอร์ (Browser) เช่น Google chrome, Mozilla Firefox, MS Edge, Safari เป็นต้น โดยเว็บไซต์จะถูกจัดเก็บไว้ในพื้นที่ที่เก็บข้อมูลที่เรียกว่า “เวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web)” หรือที่เราเห็นกันจนคุ้นตาคือ www ที่เชื่อมต่อกันทางอินเทอร์เน็ต ตัวเว็บไซต์เองนั้น คือ การรวบรวมหน้าเว็บเพจหลายๆ หน้า เข้ามาเชื่อมโยงกันผ่านทางไฮเปอร์ลิงก์ (Hyperlink) จนกลายเป็นเว็บเดียวกันจนเป็นเว็บไซต์นั่นเอง เว็บไซต์ถูกสร้างขึ้นด้วยภาษาทางคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า HTML (Hyper Text Markup Language) ซึ่งเราจะมาทำความรู้จักกับเรื่อง HTML ในบทความถัดไป นอกจาก HTML แล้วเว็บไซต์ได้มีการพัฒนาและนำภาษาอื่นๆ เข้ามามีบทบามร่วมด้วย เพื่อเพิ่มความสามารถในการใช้งานให้มีหลากหลาย สวยงามทันสมัย และมีลูกเล่นที่หลากหลายมากขึ้น เช่น ภาษา PHP, CSS, SQL, JavaScript เป็นต้น

2. ประเภทของเว็บไซต์

ก่อนการสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาหนึ่งเว็บไซต์นั่น สิ่งที่เราต้องโฟกัสเป็นอย่างแรกคือวัตถุประสงค์ในการสร้างเว็บไซต์ เว็บไซต์ของเราสร้างมาเพื่อวัตถุประสงค์อะไร กลุ่มเป้าหมายคือใคร ลักษณะเว็บไซต์เป็นอย่างไร สุดท้ายแล้วเว็บไซต์ของเราจัดอยู่ในประเภทไหน ความสำคัญของการแยกประเภทของเว็บไซต์เบื้องต้นนั้นเพื่อให้เรารู้ว่า Mood and Tone ของเว็บไซต์ของเราควรจะเป็นอย่างไร และเพื่อใช้ในการทำ Marketing หลังจากที่เราสร้างเว็บไซต์เสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์แล้ว เราขอแบ่งประเภทเว็บไซต์ออกเป็น 10 ประเภทดังนี้

1. เว็บไซต์ส่วนตัว (Personal website)

   เป็นเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นเพื่อเผยแพร่ หรือ นำเสนอข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการเขียนไดอารี่ประจำวัน ความสนใจ แนะนำผลงาน ข้อมูลในการใช้สมัครงาน เป็นต้น

2. เว็บไซต์องค์กร บริษัท (Corporate website)

   เป็นเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นเพื่อภาพลักษณ์ที่สำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่องค์กรหรือบริษัท เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการของบริษัทให้เป็นที่รู้จัก รวมถึงช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย ง่ายและสะดวกมากขึ้น

3. เว็บไซต์ขายสินค้า (E-Commerce website)

   อย่างที่กล่าวข้างต้นว่าปัจจุบันเว็บไซต์และอินเตอร์เน็ตได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการใช้ชีวิตประจำวัน การขายสินค้าออนไลน์ก็เช่นเดียวกัน มีบทบาทในการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าและชำระเงินผ่านทางเว็บไซต์ได้ทันที

4. ไซต์เพื่อความบันเทิง (Entertainment website)

   เป็นเว็บไซต์ที่นำเสนอเนื้อหาที่สร้างความบันเทิงให้ผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์ เช่น ข่าวสารอัพเดท ดารา เพลง กีฬา ความรัก ดูดวง เป็นต้น

5. เว็บไซต์ชุมชน (Community/Forum Website)

   เป็นเว็บไซต์ที่นำเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวกับเรื่องๆ หนึ่งหรือเรื่องทั่วไป ซึ่งจะเป็นรูปแบบของเว็บไซต์ Forums ที่ให้ผู้ใช้สามารถตั้งหัวข้อกระทู้เพื่อถามและผู้ใช้คนอื่นสามารถตอบกระทู้เพื่อแสดงความคิดเห็นได้

6. เว็บบล็อก (Blog Website)

   เป็นเว็บไซต์ที่นำเสนอข้อมูลความชอบในเรื่องทั่วไป เช่น สถานที่ท่องเที่ยว นักเขียน บิวตี้บล็อกเกอร์ เป็นต้น ให้ผู้ที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันสามารถเข้ามาอ่านหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ได้

7. เว็บไซต์องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร (Non-profit organization website)

   เป็นเว็บไซต์องค์กรที่สร้างขึ้นเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพัน์ข่าวสารและเนื้อหาขององค์กรโดยไม่หวังผลกำไร

8. เว็บไซต์แหล่งค้นหาข้อมูล (Directory website)

   เป็นเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูลเฉพาะหรือนำเสนอข้อมูลเชิงลึก เช่น ข้อมูลบทความ งานวิจัย หรือข้อมูลที่เกี่ยวกับงานเขียนของนักวิชาการ เป็นต้น

9. เว็บไซต์การศึกษา (Education website)

   เป็นเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นเพื่อนำเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องวิชาการและการศึกษาเป็นหลัก ซึ่งส่วนมากจะสร้างขึ้นโดยสถาบันการศึกษา เช่น เว็บ E-Learning เป็นต้น

10. เว็บแอปพลิเคชั่น (Web Application)

    เป็นเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาทำหน้าที่คล้ายกับเว็บไซต์ แต่จะเน้นเรื่องการใช้งานมากกว่าดูเนื้อหา เช่น เว็บไซต์ระบบจัดการ Stock สินค้า เป็นต้น

3. ทำไมต้องมีเว็บไซต์?

ปัจจุบัน “อินเตอร์เน็ต” และ “เว็บไซต์” เป็นสองสิ่งที่มาคู่กันจริงๆ ที่ไหนมีอินเตอร์เน็ต เว็บไซต์ของคุณก็จะอยู่ที่นั่นเสมอ ไม่ใช่แค่ในประเทศแต่เว็บไซต์ของคุณจะออนไลน์อยู่ทุกประเทศทั่วโลก ดังนั้นนี่จึงเป็นคำตอบที่ดีข้อหนึ่งของคำถามที่ว่าทำไมถึงต้องมีเว็บไซต์? การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามามีบทบาทในการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ธุรกิจมีการขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเช่นเดียวกัน การมีเว็บไซต์เปรียบเสมือนเครื่องมือที่ช่วยในการขับเคลื่อนธุรกิจของคุณและสามารถโลดแล่นอยู่บนโลกออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้น บริษัท องค์กร และธุรกิจต่างๆ ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ต่างมีความจำเป็นที่จะต้องมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง เพื่อให้ธุรกิจของคุณมีตัวตนและออนไลน์อยู่บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

4. ประโยชน์ของเว็บไซต์

สำหรับประโยชน์ของการมีเว็บไซต์มีดังนี้

• ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย เผยแพร่ข้อมูลได้ทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมง
• สร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจ พร้อมข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน บนโลกออนไลน์
• ช่วยเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและบริการต่างๆ ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
• นำไปใช้เพื่อทำการตลาดได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
• เก็บสถิติผู้ใช้งานเว็บไซต์ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปใช้ในการตลาดอย่างอื่นได้
• เพิ่มอีกหนึ่งช่องทางการขยายธุรกิจหรือสินค้าบริการให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
• เพิ่มช่องทางในการค้นหาจาก Search engine ที่ได้รับความนิยมสูงสุดอย่าง Google search

5. สิ่งที่ควรรู้ก่อนการทำเว็บไซต์

สิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องรู้และต้องมีในการทำเว็บไซต์หลักๆ เลยมีทั้งหมด 3 อย่างด้วยกันคือ

1. อินเทอร์เน็ต (Internet)

   อินเทอร์เน็ตคือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ ที่มีการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายหลายๆ เครือข่ายทั่วโลก โดยอาศัยตัวเชื่อมเครือข่ายภายใต้มาตรฐานการเชื่อมโยงเดียวกันในการใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า TCP/IP Protocol ปัจจุบันผู้ใช้เครือข่ายนี้สามารถสื่อสารถึงกันได้ในหลายๆ ช่องทาง เช่น เว็บไซต์ อีเมล โปรแกรมต่างๆ และโซเชียลเน็ตเวริ์ค เป็นต้น ซึ่งเราจำเป็นต้องใช้อินเตอร์เน็ตในการอัพโหลดเว็บนั่นเองครับ

2. เว็บเซิร์ฟเวอร์ (Web Server/Hosting)

   เว็บเซิร์ฟเวอร์ หรือ ผู้คนส่วนมากมักจะเรียกว่า “โฮสติ้ง (Hosting)” คือพื้นที่สำหรับเก็บข้อมูลไฟล์เว็บไซต์ของเรานั่นเอง เช่น ไฟล์เว็บไซต์, รูปภาพ, ไฟล์มีเดียต่างๆ เป็นต้น

3. โดเมนเนม (Domain Name)

   โดเมนเนมคือ ชื่อเว็บไซต์ หรือชื่อที่ถูกตั้งขึ้นเพื่อให้ง่ายต่อการจดจำของผู้ใช้นั่นเอง แต่จริงๆ แล้วชื่อที่ถูกเรียกแทนการเรียกเดิมเป็นหมายเลขอินเทอร์เน็ตหรือที่เรียกว่า IP Address เนื่องจากผู้ใช้งานจดจำได้ยากจึงได้มีการแปลงจาก IP Address เป็นโดเมนเนม เพื่อให้ผู้ใช้จดจำง่าย มีความสวยงามและตรงกับวัตถุประสงค์ของการสร้างหรือตั้งชื่อเว็บไซต์นั่นเอง

สรุป

เว็บไซต์ คืออะไร อ่านมาถึงตรงนี้ คาดว่าหลายๆ คนคงเข้าใจมาแล้วไม่น้อย งั้นเรามาสรุปแบบสั้นๆ ไปด้วยกัน เว็บไซต์ คือ สื่อในการนำเสนอข้อมูลหรือเรื่องราวทั่วไปบน Platform ต่างๆ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต เว็บไซต์มีหลากหลายประเภทขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการสร้างเว็บไซต์ การที่จะทำให้เว็บไซต์สามารถออนไลน์อยู่บนอินเตอร์เน็ตได้นั้นจะต้องมีองค์ประกอบอย่างน้อย 3 อย่างด้วยกันคือ อินเตอร์เน็ต โฮสติ้งและโดเมนเนม

เว็บไซต์ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญที่สามารถเข้าถึงคนได้ทั่วโลก เพราะฉะนั้นการมีเว็บไซต์จึงถือว่ามีประโยชน์สำหรับหลายธุรกิจที่ต้องการจะเผยแพร่ข้อมูล หรือธุรกิจที่อยากขยายช่องทางเพื่อเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น และการสร้างเว็บไซต์ด้วยตนเองอาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อนแต่ทุกคนสามารถสร้างเว็บไซต์ได้อย่างแน่นอน

บทความนี้เราได้เรียนรู้ข้อมูลเบื้องต้นไปแล้วว่าเว็บไซต์ คืออะไร ในบทความถัดไปเราจะมาแนะนำเรื่อง โครงสร้างของเว็บไซต์ ทำความรู้จักเว็บไซต์พื้นฐานก่อนเริ่มต้นเขียนด้วยตัวเอง ไปอ่านกันต่อได้เลย!!!